ข่าวการหลอกลวงเกี่ยวกับสินค้าและบริการในปัจจุบัน มีอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อโซเชียลต่างๆอยู่เสมอ แต่ประชาชนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยให้ความสำคัญในการเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภคมากเท่าที่ควร เพราะขาดศรัทธาในระบบกฎหมายของบ้านเมืองบ้าง และยังขาดความรู้ความเข้าใจในอำนาจของศูนย์ร้องเรียนผู้บริโภค อย่าง “ หน่วยงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค “ หรือที่ประชาชนเรียกกันติดปากว่า “สคบ.”
ประเทศไทยได้จัดตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมา เรียกสั้นๆ ว่า “สคบ.” ตามพ.ร.บ. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคพ.ศ. 2522 และมีการแก้ไขพ.ร.บ.ใหม่ในปี 2541 เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการในสังคม โดยได้คุ้มครองสิทธิพื้นฐานที่ผู้บริโภคพึงได้รับ แต่ทั้งนี้การสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมให้มีความเป็นธรรมและสำคัญไม่น้อยกว่าการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะนอกจาก “สคบ.”แล้วก็ยังมีหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และประชาชนควรจะเลือกร้องเรียนให้ตรงกับปัญหาของสินค้าและบริการที่ตนได้รับความไม่เป็นธรรมด้วย เพื่อประโยชน์ในการรักษาสิทธิให้เต็มประสิทธิภาพดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา คุ้มครองตั้งแต่สินค้าจำพวก อาหาร วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมไปถึงยารักษาโรค ตลอดจนเครื่องมือแพทย์ วัตถุเสพติดให้โทษ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด หากมีปัญหาความไม่ธรรมจากสินค้าดังกล่าว สามารถร้องเรียนได้กับหน่วยงานนี้
กรมอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข การบริการที่ถูกหลักโภชนาการ หรือมาตรฐานด้านโภชนาการในแง่วิชาการต่างๆ สามารถหาข้อมูลหลักได้จากกรมอนามัยนี้
กรมการค้าภายใน มีหน้าที่ควบคุมดูแลการส่งออก-นำเข้าสินค้าให้เป็นไปตามกฎหมาย หากพบว่าถูกเอาเปรียบจากการค้า สามารถร้องเรียนได้กับหน่วยงานกรมการค้าภายใน
กรมที่ดิน ดูแลสอดส่องปัญหาเกี่ยวกับการโอนซื้อขายที่ดิน รวมถึงสัญญาจะซื้อจะขาย และการปลอมแปลงเอกสารต่างๆ สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารที่ดินได้ที่กรมนี้
สำนักงานมาตรฐานในการผลิตภัณฑ์อุตสากรรม หรือสินค้าที่มี “มอก.” หากพบข้อสงสัยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า สามารถร้องเรียนกับสำนักงานนี้ได้
กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลควบคุมสารเคมีในการทำการเกษตร และวัตถุอันตรายมีพิษต่างๆ เช่น ปุ๋ยเคมี
คณะอนุกรมการคุ้มครองผู้บริโภค จะมีอยู่ในทุกจังหวัดประจำการ คอยรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค และให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับประชาชนเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้มากที่สุด
หากประชาชนมีความรู้และความเข้าใจในหน่วยงานเหล่านี้และสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในการร้องเรียนเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมที่พึงได้รับจากความเสียหายอันเกิดจากสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบได้ ก็นำมาซึ่งการรักษาสิทธิที่ถูกต้อง ไม่มีการโต้เถียงหรือสร้างความรุนแรงจากความขัดแย้งดังกล่าวให้เกิดขึ้นในสังคมอีกต่อไป