ทุกวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภค บางรายยังไม่รู้ถึงหลักในการเลือกซื้อสินค้าและบริการได้อย่างถูกต้อง ยังคงซื้อสินค้าและบริการด้วยความ “ถูกใจ” มากกว่า “เข้าใจ” ทำให้ถูกละเมิดสิทธิผู้บริโภคอยู่บ่อยครั้ง ปรากฏตามข่าวและสื่อโซเชียลต่างๆ ซึ่งมีสาเหตุต่างๆในการร้องเรียนดังนี้
ร้องเรียนเกี่ยวกับอาหาร เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดของผู้บริโภค ซึ่งมีหลายประเด็นในการร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็น การนำอาหารหมดอายุมาจัดจำหน่าย อาหารหมดอายุแต่แปะฉลากไม่ถูกต้อง มีการโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับการขายอาหาร เครื่องดื่มและอาหารไม่สะอาดไม่ได้มาตรฐาน พบสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ฉลากที่อยู่บนผลิตภัณฑ์อาหารไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจน
ร้องเรียนเกี่ยวยาและเครื่องสำอาง สมัยนี้เครื่องสำอางรวมไปถึงยาอาหารเสริมแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ก็ว่าได้ การร้องเรียนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยาและเครื่องสำอางมักจะเป็น เครื่องสำอางไม่มีอย. หรือปลอมแปลงอย. การจ่ายยาของร้านขายยาไม่ถูกต้องหรือเกินขนาด เน้นผลกำไรมากกว่าสุขภาพของคนไข้ เครื่องสำอางผสมสารปรอทหรือสารที่มีอันตรายต่อผิวพรรณเกินปริมาณที่กำหนด
ร้องเรียนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หรือเกี่ยวกับข้อสัญญา นักธุรกิจเมื่อตกลงซื้อขายบางรายสัญญามีความไม่เป็นธรรมหรือให้ผลประโยชน์ต่ออีกฝ่ายมากกว่า หรือไม่ได้ทำสัญญาเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดก็จำเป็นต้องมีการร้องเรียนกันเกี่ยวกับข้อสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้น ก็จำต้องมาไกล่เกลี่ยกันให้ได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่หากไกล่เกลี่ยไม่ได้ก็จำเป็นต้องมีทนายฟ้องร้องกันทางศาลต่อไป
ร้องเรียนเกี่ยวกับการโฆษณา ทุกวันนี้การใช้ข้อความเพื่อให้มีการชวนเชื่อหรือโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของตนกลายเป็นสิ่งจำเป็นในธุรกิจสูงมาก เพราะคู่แข่งทางการตลาดและธุรกิจสมัยนี้มีเยอะและแข่งกันดุเดือด การแสดงถึงภาพลักษณ์ของสินค้าหรือบริการในทางที่ดูแพงหรือสวยหรูและน่าซื้อ หรือแม้กระทั่งโปรโมชั่นกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ลดแลกแจกแถมก็จัดเป็นการโฆษณาอย่างหนึ่งเช่นกัน ทั้งหมดนี้สามารถกระทำได้เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้ความจริง เพราะหากโฆษณาแต่ทำไม่ได้ ก็จะเข้าค่ายโฆษณาเกินจริง อันเป็นที่มาของการร้องเรียนที่พบเจอกันอยู่มากในปัจจุบัน เข้าค่ายหลอกลวงกันจริงๆ
ร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการทั่วไป จัดเป็นอันดับท้ายๆ ของการร้องเรียน เพราะสินค้าและบริการทั่วไปก็มักจะมีความชัดเจนในการซื้อขายอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางรายอาศัยความไม่รู้ของผู้บริโภคเข้ามาทำผลประโยชน์โดยมิชอบ แต่เมื่อมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้นก็นำมาสู่การร้องเรียนกันภายหลัง
เรื่องทั้งหมดดังที่กล่าวมา เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆในสังคม สำนักงานคณะกรรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งให้ความรู้แก่ประชาชน และร่วมป้องกันและปราบปรามผู้ละเมิดสิทธิผู้บริโภคอยู่เสมอ เพื่อลดการเอาเปรียบที่เกิดขึ้นและให้เท่าทันกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน